ชาชนิดเดียวกันแต่ทำไมราคาแต่ละถุงจึงไม่เท่ากัน ใบชาที่เราใช้ชงดื่มมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปอาทิ ใบชาเต็มใบม้วนเกลียวยาว สวยงาม หรือเป็นใบชาสับละเอียดมา จึงทำให้ราคาของชาแต่ละถุงไม่เท่ากันตามเกรดของใบชา วันนี้ชวนทุกคนมาทำความรู้จักเกรดของใบชากัน

เกรดใบชาเต็มใบ (Whole Tea leaf)

ลักษณะของเกรดใบชาเต็มใบคือ ใบชาจะหนา ม้วนเป็นเกลียวยาว ไม่เป็นเศษผง กลิ่นหอมโดยทั่วไปชาเต็มใบถือว่าเป็นชาเกรดดี สามารถแบ่งออกเป็น 4 เกรดย่อย คือ ใบอ่อน, ใบชาคู่แรก, พิโคะ (Pekoe), เพียว ซูชอง (Pure Souchong) เวลาชงชานี้ใบชาจะขยายตัวออกให้เห็นใบอย่างชัดเจน

เกรดใบชาร่วง (Broken Tea Leaf)

ลักษณะของเกรดใบชาร่วงคือ ใบชาสั้นกว่าเกรดใบชาเต็มใบ มีการแตกหักบ้าง แต่ยังคงม้วนเป็นเกลียวแบบดั้งเดิม โดยคุณสมบัติของชาผง คือ เวลาชงด้วยน้ำร้อนจะขับสีออกเร็วมาก มีสีชัดเจน จึงเป็นที่นิยมของผู้ดื่มชา

เกรดใบชาผง (Fine Leaf Teas)

เป็นชาที่เหลือจากการคัดเกรด โดยการนำใบชาที่เหลือมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ลักษณะของเกรดใบชาผง คือ ใบชาค่อนข้างละเอียดส่งผลให้รสชาติจะเข้มมาก เพราะใบชาที่มีขนาดเล็กทำให้รสชาติออกมาได้ง่ายมากขึ้นเมื่อสัมผัสกับน้ำร้อน

เกรดของใบชาแต่ละชนิดมีขนาดใบชาที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นคุณภาพทางรสชาติไม่ได้ขึ้นกับขนาดของใบชาอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับว่าใบชาเป็นส่วนไหนของต้นชามากกว่า ใบชาที่ใหญ่ไม่ได้หมายความว่าจะมีรสชาติที่ดีกว่า หรือแม้แต่ยอดชาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดใบชาคุณภาพดี หากผ่านมือผู้ผลิตชาที่ไม่ดี รสชาติชาก็อาจจะลดลงได้เช่นกัน

 

เรื่อง
นิธิกานต์ บุรณจันทร์

สาวน้อยผู้พกความสดใสและหัวใจที่เต็มไปด้วยแมงกะพรุนย่าง สถานะโสดมาก มีน้องหมา1ตัว งื้อ

ภาพ
อภิชญา สิริมังคละเดช

ดีไซน์เนอร์ผู้ชื่นชอบแกงกะหรี่ญี่ปุ่นของแท้เป็นชีวิตจิตใจ เก็บซ่อนความดุร้ายและปลดปล่อยตลอดเวลาที่อยู่กับเพื่อน